t-reg PDPA Platform

t-reg (Thailand Regulatory Platform) แพลตฟอร์ม Reg-Tech เพื่อองค์กรไทยในวันที่กฎหมาย PDPA บังคับใช้

เนื้อหาในบทความ

บทสัมภาษณ์นี้จะพาทุกท่านมารู้จักกับแพลตฟอร์ม t-reg (Thailand Regulatory Platform) ที่จะช่วยให้องค์กรของคุณทำ PDPA ให้เป็นเรื่อง่าย และครบถ้วนทุกข้อกฎหมาย

ผู้เขียนได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณวันพิชิต ชินตระกูลชัย หรือคุณเกี๊ยก CTO ของบริษัท Ragnar Corporation จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจ B2B Cyber Tech & Reg Tech startups สัญชาติไทยที่ให้บริการด้าน PDPA และ Cyber Security โดยเฉพาะ

ที่มาของ Thailand Regulatory Platform (t-reg) แพลตฟอร์ม PDPA สัญชาติไทย

ถ้าจะเล่าเกี่ยวกับความเป็นมาของ t-reg ก็อาจจะต้องย้อนกลับไปตั้งแต่เรื่องของการ transform ธุรกิจของบริษัทเรา คือก่อนหน้านี้เราทำธุรกิจแนวบริการ SI (System Integrator) ในเรื่องของการติดตั้งอุปกรณ์ cyber security ที่ไม่มีการทำ Network และ Server แต่เน้นไปที่ Cyber Security อย่างเดียว

หลังจากเริ่มธุรกิจทางด้าน SI ได้สักพัก รัฐบาลได้มีการประกาศใช้กฎหมายดิจิทัลออกมา ทางเราจึงตอบสนองตัวกฎหมายนี้ด้วยการให้บริการที่ปรึกษาหรือ Consult ซึ่งเมื่อดำเนินงานไปได้สักพัก ทำให้เราพบว่า ในหลาย ๆ งานยังไม่ครอบคลุมสเกลที่มีอยู่ เพราะกว่าจะได้ที่ปรึกษามา 1 คนนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ เนื่องจากกระบวนการที่ปรึกษา ตัวผู้ให้คำปรึกษาต้องลงไปเก็บข้อมูลด้วยตนเองผ่านการสัมภาษณ์ และสิ่งที่ส่งมอบไปให้ก็คือรายงาน 1 เล่ม และลูกค้าก็นำรายงานจากทางเราไปจัดหาอุปกรณ์ หรือปรับปรุงกระบวนให้เป็นไปตามที่ทางเราแนะนำ ซึ่งกว่าจะจบกระบวนการนึงหรือ ครบข้อกฎหมายกำหนดนั้นใช้เวลานานมาก ทางเราเลยมองเห็นโอกาสจากปัญหาตรงนี้

เมื่อเห็นโอกาส เราจึงตั้งคำถามว่า

“ เราสามารถทำให้กระบวนการ Cyber security รวดเร็วกว่านี้ได้หรือเปล่า? ใช้เวลาในกระบวนการต่าง ๆ นี้ได้น้อยลงกว่าเดิมหรือไม่? ”

จากข้อนี้เราจึงสร้าง platform ที่มีชื่อว่า t-reg ขึ้นมา ช่วงพัฒนาแรก ๆ เราก็นำมาใช้ภายในให้ Consult ใช้งานเวลาให้คำปรึกษา แต่ ณ ปัจจุบันเราได้พัฒนาตัว t-reg ให้ลูกค้า สามารถใช้งานเองได้

ภาพ Dash Board ของ Thailand Regulatory Platform (t-reg)
หน้า Dashboard ของ t-reg

พัฒนาการของ t-reg ตั้งแต่เริ่มจนถึงปัจจุบัน ทำอย่างไรให้แพลตฟอร์มเข้าใจผู้ใช้มากที่สุด

จากที่ผมเล่ามาก่อนหน้านี้เกี่ยวที่มาของแพลตฟอร์ม t-reg ที่เมื่อก่อนให้บริการด้านการคำปรึกษาอย่างเดียว และเราได้เห็นปัญหาในเรื่องของระยะเวลาในการทำตามกระบวนการต่าง ๆ ให้ถูกกฎหมายนานเกินไป จึงสร้างแพลตฟอร์มนี้ขึ้นมา

แรกเริ่มคือให้ที่ปรึกษาในบริษัทของเราใช้ โดยก่อนเริ่มทำ PDPA มีสิ่งที่เราต้องทำเป็นอย่างแรกก็คือการทำ RoP  (Records of processing activities)  เพื่อให้องค์กรที่เราให้คำปรึกษาได้เห็นก่อนว่าในองค์กรของลูกค้าใช้ข้อมูลส่วนบุคคลไปกับงานส่วนไหน อย่างไรบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้ทางที่ปรึกษาของบริษัทจะทำเป็นไฟล์ excel แนบไปกับรายงาน โดยกว่าจะได้ RoP มาในแต่ครั้งต้องไปสัมภาษณ์หลายฝ่าย แล้วนำข้อมูลมากรอกลง excel ซึ่งข้อมูลส่วนนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาตั้งแต่เริ่มจนจบโครงการ ซึ่งทำให้ต้องการอัพเดตตลอดเวลา และใช้เวลานานในการทำ เพราะต้องส่งไปให้ฝ่ายอื่น ตรวจสอบ และรีวิวกลับมา

ถึงแม้จะปรับไปใช้ document on cloud อย่าง Google sheet และ Google Doc ต่าง ๆ ก็ยังพบปัญหาว่าข้อมูลบางส่วนมีการแก้ไขโดยที่เราไม่สามารถรู้ได้ว่าใครเป็นคนแก้ไข และแก้ไขไปตอนไหน ก็เลยสร้างแพลตฟอร์ม t-reg ตัวนี้ออกมา

ช่วงแรกเป็นเครื่องมือสำหรับที่ปรึกษาเพียงอย่างเดียว แต่ในภายหลังก็นำมาให้ลูกค้าเครื่องมือแบบที่ไม่มีการให้คำปรึกษาก็พบว่ายังไม่เวิร์กเหมือนกันเพราะว่ากฎหมาย PDPA และตัวแพลตฟอร์มนี้เป็นเรื่องใหม่ ดังนั้นจึงมีการปรับจูนใหม่อีกครั้งให้ตรงกับ Customer Experience คือต้องมีที่ปรึกษาพร้อมกับ t-reg ไปด้วยกัน

โดยการทางผู้ให้คำปรึกษาของทางบริษัทเราก็จะมีการทำงานตาม Methodology 3.0 ซึ่งเป็นกระบวนการให้คำปรึกษาที่ถูกออกแบบมาประสานงานกันระหว่างงานที่ปรึกษา และตัว t-reg สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น  

Methodology 3.0 กับ t-reg
Methodology 3.0 ของ t-reg

จากเคสการใช้งาน ทำให้ผู้ใช้ t-reg เข้าใจ และปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA ได้อย่างถูกต้อง

จริง ๆ แล้วในส่วนของข้อมูล PDPA ถ้าเรามองเคสการใช้งาน เราจะมองเป็น 2 ด้านก็คือด้านข้อมูลขาเข้า และข้อมูลขาออก  ข้อมูลขาเข้าจะเกี่ยวข้องในเรื่องของการทำ consent หรือขอความยินยอมในการเก็บใช้เผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคล โดยตัว t-reg ของเรานี้จะมี toolkit ที่สามารถนำไปแปะตามเว็บไซต์ หรือแบบฟอร์มต่าง ๆ กระทั่งเป็น API ของลูกค้าที่เก็บข้อมูล consent เข้ามาเก็บที่ t-reg ซึ่งเราจะพบเคสส่วนใหญ่ในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบ consent ที่อยู่บนเว็บ, ใบสมัคร และคุกกี้บนเว็บไซต์ต่าง ๆ 

ส่วนอีกเคสจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการนำข้อมูลไปใช้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับฝ่ายการตลาด ฝ่ายดูแลลลูกค้าสัมพันธ์ที่ต้องเข้ามาตรวจสอบใน t-reg ว่าลูกค้าแต่ละท่าน consent ในข้อมูลส่วนไหนบ้าง และท่านไหนที่เราสามารถนำข้อมูลไปทำการตลาด

นอกจากนี้ยังมีการทำ RoP ภายในองค์กร ตัว t-reg ของเราก็จะมี Dashboard แสดงให้ผู้ใช้เห็นถึงภาพรวมของข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นจัดเก็บข้อมูลใดบ้าง มีข้อมูลอ่อนไหวอะไรบ้างที่ถูกจัดเก็บ จัดเก็บไว้ในที่ และมีแผนกไหนใช้ข้อมูลส่วนบุคคลบ้าง

รวมถึงเคสของการทำ Gap Analysis หรือ Sales Assessment แพลตฟอร์ม t-reg ของเราก็จะมีฟังก์ชันให้ทาง DPO สามารถเข้าไปประเมินได้ว่าองค์กรของเราทำ PDPA ไปแล้วกี่ % มีส่วนไหนบ้างที่เป็น Gap หรือว่าต้องไปทำเพิ่มเพื่อให้ comply กับกฎหมาย PDPA จากที่กล่าวมาทั้งหมดก็จะเป็น Business Case หลัก ๆ ที่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์ม t-reg 

ไม่หยุดที่จะพัฒนา t-reg ให้องค์กรสามารถใช้งานแพลตฟอร์มนี้ได้แบบไม่สะดุด

ในส่วนของ t-reg ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย PDPA เมื่อย้อนกลับไปในช่วง 1-2 ปีที่แล้ว จุดที่ยากก็น่าจะเป็นเรื่องของการเริ่มต้น เพราะข้อมูลต่าง ๆ และ business ที่เกี่ยวข้องในประเทศไทยยังน้อย จึงเกิดคำถามว่า consent ต้องทำอย่างไร แปะไว้ส่วนไหนบ้าง

แต่ในปัจจุบันเริ่มมี practice ออกมาค่อนข้างเยอะ และองค์กรในไทยมี awareness ค่อนข้างสูงขึ้น จุดที่ยากเลยเปลี่ยนจากความรู้ด้านกฎหมาย และ practice ต่าง ๆ เป็นการออกแบบการทำงานของ t-reg อย่างไรให้การทำงานของลูกค้าที่เป็นผู้ใช้ไม่สะดุด พร้อมกับการปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA ไปด้วยเช่น ทำอย่างไรให้ฝ่ายการตลาด ฝ่ายการขาย หรือลูกค้าสัมพันธ์สามารถใช้ข้อมูลลูกค้าได้เหมือนก่อนที่กฎหมายบังคับใช้

ดังนั้นสิ่งที่ t-reg จะ focus ใน road map อนาคตเลยก็คือ เน้นไปที่การ integration เช่นเมื่อทางทีม product ทำเว็บไซต์ขึ้นมาใหม่ เราจะทำอย่างไรให้ consent ถูกแปะและเก็บที่ t-reg อย่างรวดเร็ว โดยที่ผู้ใช้แพลตฟอร์มไม่ต้องกังวลเรื่องการ integration นอกจากนี้ยังมองเห็นถึงการนำ t-reg ไปใช้กับ product อื่น ๆ ที่ลูกค้าใช้งานเช่น office365, google form หรือ Microsoft form ได้อย่าง seamless

การประยุกต์ t-reg กับ PDPA
การประยุกต์ t-reg กับ Cookie Policy

อยากยกระดับองค์กรไทยให้เท่าทันมาตรฐานสากลแบบทั่วถึงทุกภาคส่วน

ด้วยความที่ประเทศไทยได้ออกกฎหมายเกี่ยวกับ Cyber Security และ PDPA ออกมาเพื่อรองรับสังคมดิจิทัล ทางบริษัท Ragnar ของเราก็ได้ปฏิบัติตามกฎหมายที่ออกมาเช่นเดียวกัน อย่างช่วงแรกที่เราทำแบบ SI ที่ขาย Cyber Security Solution หรือว่าตัว Reg-Tech จากต่างประเทศ เราก็พบว่าลูกค้าของเราเป็นแบบลูกค้าไฮ-เอนด์ หรือว่าระดับใหญ่ในประเทศนั้น ซึ่งก็เกิดคำถามในใจว่าทำไมมาตรฐานสากลที่เกี่ยวกับเรื่อง Cyber Security และ PDPA ถึงต้องใช้การลงทุนสูงมากทั้งเรื่องของเงิน และเวลา ทำให้องค์กรขนาดกลาง หรือขนาดเล็กไม่สามารถปฏิบัติตามมาตรฐานสากล ด้วยทรัพยากรในองค์กรที่มีอย่างจำกัด เราเลยมองว่า t-reg ของเราเนี่ยเป็นตัว springboard ที่ไม่ว่าองค์กรขนาดเล็ก หรือกลางสามารถนำมาตรฐานสากลต่าง ๆ มา implement โดยต้นทุนที่ไม่สูงมากทั้งในเรื่องของค่าใช้จ่าย และเวลา

อีกสิ่งหนึ่งที่เรานึกถึงเลยก็คือเรื่องของการให้ความรู้ สำหรับองค์กรบางแห่งที่มีจำนวนพนักงานอยู่ที่ 10-50 คน และอาจจะไม่ได้จำเป็นต้องใช้แพลตฟอร์มทำ PDPA สามารถใช้วิธีเดิมในการจัดการข้อมูลให้ comply กับกฎหมาย PDPA ได้ผ่าน excel หรือ google sheet ทางเราก็ได้คิดค้นโครงการ opensource ที่มีชื่อว่า “OpenPDPA” ที่จะมีการแจกเอกสาร template document นโยนบายความเป็นส่วนตัวต่าง ๆ ที่สามารถนำไปใช้ได้ฟรี

ดังนั้นผมมองว่าสิ่งที่ t-reg สามารถช่วยสังคมไทยได้ ก็คือการนำมาตรฐานสากลที่เกี่ยวกับ Cyber Security และ มา implement ให้แก่องค์กรในไทยได้อย่างทั่วถึงทุกภาคส่วน และการให้ความรู้เกี่ยว Cyber Tech และ Reg Tech แบบที่เราถนัด

แสดงความมั่นใจให้คู่ค้าระหว่างประเทศด้วยการ comply กฎหมาย PDPA

หลายท่านอาจจะมองว่าการทำให้ comply กับตัวกฎหมาย PDPA อาจจะมีเรื่องของต้นทุน แต่ในเคสของต่างประเทศมองว่าส่วนนี้เป็นการลงทุน (investment) กล่าวคือก่อนที่เราจะทำตามกฎหมาย PDPA เพราะว่าในสากลก็มีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเช่นกัน อย่างใน EU ที่เรารู้กันในชื่อของ GDPR และหลาย ๆ ประเทศก็ปฏิบัติตามกฎหมายตัวนี้ ซึ่งประเทศไหนที่ยังไม่ได้ทำตามกฎหมาย GDPR ทาง EU ก็จะแจ้งเตือนประชาชนให้ระวังเรื่องการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัทที่มาจากประเทศนั้น ๆ

ฉะนั้นถ้าเราไม่มีมาตรฐาน หรือไม่ทำตามกฎหมาย PDPA  เราก็จะไม่สามารถเข้าถึงโอกาสทางด้านการค้า และอื่น ๆ ได้ ต่างชาติก็จะมองว่าบริษัทของเรายังไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้นการทำตามกฎหมาย PDPA นี้ก็ถือว่าเป็นการยกระดับบริษัทของท่านให้เท่าทันกับข้อปฏิบัติหรือ กฎหมายของต่างประเทศ ซึ่งหลาย ๆ องค์กรที่เป็นลูกค้าของ t-reg ก็ใช้บริการของเราในการริเริ่มทำสิ่งอื่น ๆ ต่อเช่นการทำ Digital Transformation ด้วยการรวมถังข้อมูลของลูกค้ามาไว้ที่เดียว และการทำ Preference Management รู้ว่าลูกค้าต้องการอะไรจากบริษัทของเรา ทำให้เราเก็บข้อมูลลูกค้าน้อยลง และสามารถนำข้อมูลที่ได้ให้ฝ่ายการตลาดทำข้อมูลได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้น ซึ่งสิ่งนี้ก็เป็น opportunity ที่เรามองเห็นจากการทำ PDPA ด้วยแพลตฟอร์ม t-reg ของเราครับ   

FREE EVENT
ร่วมรับฟังแนวทางการรับมือเมื่อเกิดเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับองค์กรของท่านในการรับมือกับเหตุละเมิดที่อาจเกิดขึ้น โดยผู้เชี่ยวชาญผู้มีประสบการณ์ให้คำปรึกษาด้านกระบวนการ PDPA สำเร็จแล้วกว่า 60 องค์กร และได้รับ Certificate จากสถาบันดิจิทัล (DCT) และมาตรฐานสากล ICDL หลักสูตร Personal Data Protection
RELATED POST
Consent คือ
Case Study

Lesson Learn จาก Google Consent สำคัญแค่ไหน? ทำไมบริษัทใหญ่ๆ มักตกหลุมพราง Consent

Consent คือ พื้นฐานของกฎหมาย GDPR กฎหมาย PDPA และกฎหมายคุ้มครองข้อมูลอื่น ๆ  ซึ่งดูเป็นเรื่องที่ไม่ซับซ้อนเท่ากับขั้นตอนอื่น

อ่านต่อ »
t-reg knowledge

PDPA Platform เลือกอย่างไรให้ตอบโจทย์ทั้งกฎหมายและความเชื่อมั่นองค์กร

เมื่อกฎหมายความเป็นส่วนตัวกลายเป็นมาตรฐานใหม่ขององค์กร ในยุคที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่าง PDPA ของไทย และ GDPR ของยุโรป ได้กลายเป็นมาตรฐานสำคัญในการดำเนินธุรกิจ

อ่านต่อ »
ทำไม PDPA คือหัวใจของการจัดการข้อมูลในยุคดิจิทัล 2025 พร้อมไอคอนรูปกุญแจและพื้นหลังเทคโนโลยี
t-reg knowledge

ทำไม PDPA คือ หัวใจของการจัดการข้อมูลในยุคดิจิทัล 2025

ในปี 2025 การจัดการข้อมูลส่วนบุคคลได้กลายเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญระดับนโยบายของทั้งองค์กรภาครัฐและเอกชน หลังจากที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) บังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบ ผู้คนในสังคมก็เริ่มตระหนักถึง “สิทธิในข้อมูลของตนเอง”

อ่านต่อ »

ส่งต่อบทความดีๆ ได้ที่นี่